ลิงลมขย่มโลกันต์

จาก สยามดารา
http://www.siamdara....1031_36822.html



''มายด์-วรัทยา'' รองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เตรียมเหินฟ้าคว้ามงกุฎ ''มิสเอิร์ธ 2012'' ที่ฟิลิปปินส์ พ.ย.นี้ ใช้ชุด ''มโนราห์'' เอกลักษณ์ชาวใต้เป็นชุดประจำชาติ พร้อมนำเสนอโครงการ ''รณรงค์เก็บขยะลุ่มน้ำบางปะกง'' เชื่อชนะใจกรรมการ

''มายด์'' วรัทยา ว่องชยา��รณ์ รองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ สาวตาคมจากจังหวัดสงขลา วัย 19 ปี เตรียมเหินฟ้า สู่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อชิงมงกุฎ ''มิสเอิร์ธ 2012'' รอบตัดสิน 24 พฤศจิกายน 2555 โดยมายด์ได้เปิดใจถึงการเตรียมพร้อมในการเข้าสู่เวทีประกวดครั้งนี้ว่า ขณะนี้ได้เตรียมการด้านต่างๆ พร้อมแล้ว ทั้งชุดประจำชาติ การแสดงบนเวที และโครงการสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นข้อบังคับเฉพาะเวทีประกวดมิสเอิร์ธที่เน้นการให้สาวงามได้เป็นตัวแทนในการสร้างความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม

''ในฐานะที่มายด์เป็นชาวสงขลาเป็นคนใต้ก็อยากนำวัฒนธรรมชาวใต้ไปเผยแพร่ให้นานาชาติรู้จัก จึงเลือกชุดประจำชาติเป็น ''ชุดมโนราห์'' ซึ่งสื่อถึงเอกลักษณ์ของชาวใต้ โดยชุด มโนราห์ ชุดนี้ จะเป็นชุดมโนราห์แบบดั้งเดิมที่ใช้แสดงจริง ส่วนการแสดงบนเวทีก็ได้เตรียมระบำชุด ''นารีศรีวิชัย'' ไปแสดง เชื่อว่าการที่เรานำเสนอสิ่งที่เป็นตัวเองและเราคุ้นเคยจะทำให้ชนะใจกรรมการและผู้ชมอย่างแน่นอน''

ส่วนการนำเสนอโครงการสิ่งแวดล้อม มายด์ได้กล่าวว่า เวทีประกวดมิสเอิร์ธ เป็นเวทีเป็นการประกวดนางงามนานาชาติที่เน้นการช่วยในการรณรงค์ ความตระหนักต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้เข้าประกวดจะต้องนำเสนอโครงการสิ่งแวดล้อมที่ตนเองสนใจ ซึ่งมายด์สนใจเรื่อง ''น้ำ'' มากที่สุด เพราะจะเห็นว่าในประเทศไทยของเราขณะนี้มีปัญหาเรื่องน้ำในหลายเรื่อง ทั้งน้ำมากไป น้ำน้อยไป และน้ำเน่าเสีย และด้วยความสำคัญของ ''น้ำ'' ที่มีต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ จึงอยากทำโครงการ ''รณรงค์การเก็บขยะในแม่น้ำบางปะกง'' ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา สายเลือดใหญ่ของประเทศไทย ตลอดเส้นทางริม แม่น้ำบางปะกงอาจถือได้ว่าเป็น แม่น้ำสายเศรษฐกิจ เพราะที่มีทั้งแหล่งอุตสาหกรรม แหล่งเกษตรกรรม แหล่งการทำประมง เส้นทางการคมนาคม และยังเป็นแหล่งน้ำบริโ��คของชุมชมทั้งฝั่งแม่น้ำ''

สำหรับโครงการ ''รณรงค์เก็บขยะในลุ่มน้ำบางปะกง'' ของ ''มายด์-วรัทยา'' ขณะนี้ได้นำเสนอเป็น วิดีโอคลิปนำเสนอผลงานเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ชมผ่านทาง หรือ Miss Earth Thailand 2012-Waratthaya Wongchayaporn โดยการกด like ของผู้เข้าชมจะส่งผลต่อคะแนนของเธอในการเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายโดยอัตโนมัติ

การประกวดมิสเอิร์ธ 2012 ที่จะจัดการประกวดรอบตัดสินในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ มีสาวงามจากทั่วโลกเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 96 ประเทศ โดยที่ผ่านมาสาวงามจากไทยเคยทำผลงานได้เพียงรองอันดับ 2 Miss Earth Water โดย '' เอี๊ยม'' วรรษพร วัฒนากุล เมื่อปี 2010 และคว้ารางวัล ''ขวัญใจช่าง��าพ'' มาครองอีกตำแหน่ง และในปีนี้ ''มายด์-วรัทยา'' ได้กล่าวอย่างมุ่งมั่นว่า เธอจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อชิงมงกุฎ ''มิสเอิร์ธ 2012'' มาเป็นของคนไทยให้ได้
สำหรับ ''มายด์'' วรัทยา ว่องชยา��รณ์ รองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เอก��าษาอังกฤษสื่อสารธุรกิจ เป็นนางงามคนแรกในทีม ''มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012'' ��ายใต้การจัดการประกวดของ บริษัท จันทร์ 25 จำกัด โดย คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์ ที่จะเดินทางไปประกวดในเวทีระดับโลก โดยสาวงามอีก 3 คนที่เตรียมเดินทางไปประกวดอีก 3 เวทีระดับโลกคือ ''ริด้า'' ณัฐพิมล นาฏยลักษณ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012 ซึ่งจะเดินทางไปประกวด มิสยูนิเวิร์ส ณ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ในเดือนธันวาคม ''กวาง'' พร��ัสสร อัตถปัญญาพล จะเดินทางไปประกวด 18th Miss Tourism Queen of the Year International 2012 ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และ ''แนน'' สุพัตรา จูเจริญ จะเดินทางไปประกวด 16th Miss Tourism International 2012 World Final ณ ประเทศมาเลเซีย ในเดือนธันวาคมนี้เช่นกัน

สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันวัน อังคารที่ 1 พฤษ��าคม
ถ่ายทอดสดทาง http://songkhlatoday.com/

จากงานกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่39 “สงขลานครินทร์เกมส์” (หาดใหญ่)

เวปไซต์ http://www.songklana...games.psu.ac.th
facebook https://www.facebook...218144784885733

หลายคนดูแล้ว หลายคนกำลังหาอยู่ไม่ว่ากันฮะ









http://www.youtube.com/watch?v=fNxhjdH7NxY&feature=player_embedded

ปิดตำนานเจ้าแม่กิ๊บดำสามปีซ้อน

งานประเพณีประกวดจุฬา ธรรมศาสตร์ มหิดล

Corona Extraที่รู้จักกันดีในฐานะโคโรนาและติดป้ายว่าเป็นCoronitaในสเปน เป็นแบรนด์ของเบียร์อ่อนเป็นเจ้าของและผลิตโดยCerveceria Modeloที่จำนวนของโรงงานผลิตเบียร์ในเม็กซิโก มันเป็นหนึ่งในเบียร์ที่ขายดีที่สุดในเม็กซิโกและเป็นหนึ่งในยอดขายสูงสุดทั่วโลก

ข้อมูลจากวิกินะครับ

ปาล์มมี่ และ 15 คน

http://www.youtube.com/watch?v=RO3wYnPyCYk&feature=related

ผู้ได้รับรางวัล

http://www.youtube.com/watch?v=fK9cPkMWmC4&feature=related

top 5

http://www.youtube.com/watch?v=n-bVYVjHCE0&feature=watch_response

รวม Miss Teen ในอดีต

http://www.youtube.com/watch?v=u9pwnrlJKNs&feature=watch_response

ประกาศผล รอง

http://www.youtube.com/watch?v=v54dz8nTJQk&feature=watch_response

มง

http://www.youtube.com/watch?v=_5sHh-1HImI&feature=watch_response

ขอบคุณ คุณduangaes แห่งยูทูปครับ

แนะนำผู้เข้าประกวด 1

http://www.youtube.com/watch?v=3BLWPcKE60E

แนะนำผุ้เข้าประกวด 2

http://www.youtube.com/watch?v=4o7KoBrtGqQ&feature=related

เก็บตัว @ สุพรรณ

http://www.youtube.com/watch?v=k3qcVBy2UTs&feature=related

top 15

http://www.youtube.com/watch?v=qqsgT_mJrKw&feature=related

มีน เกรช

http://www.youtube.com/watch?v=VuTtpxa5sfk&feature=related

หอนาฬิกา ขอนแก่น


หอนาฬิกา ร้อยเอ็ด




หอนาฬิกา นครราชสีมา


หอนาฬิกา อุบลราชธานี

ดูไม่ผิดหรอกฮะ กองหินกลางทะเลเวิ้งว้างในอ่าวไทย โผล่พ้นน้ำขึ้นมาไม่เกิน 100 ตารางเมตร ส��าพส่วนใหญ่เป็นหินล้วน ๆ ไม่มีต้นไม้ใบหญ้า ห่างจาก ชายฝั่งอำเ��อเมือง จังหวัดนราธิวาส ไปทางทิศตะวันออกเป็นระยะทาง 106 กิโลเมตร นี้แหละครับคือเกาะที่สร้างมูลค่าเป็นตัวเงินไม่ได้ให้แก่ประเทศไทย ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครรู้จักนอกจากชาวประมงและนักดำน้ำเพราะปะการังที่นี้สวยมากๆๆๆ


เบื้องหลังกลับเป็นตำนานของโครงการมูลค่ามหาศาลหลายแสนล้าน หรืออาจเรียกได้ว่า เกาะโลซินเป็นเกาะที่มีมูลค่าเท่ากับโคตรเพชรเลยก็ได้

เพราะหากไม่มีเกาะโลซิน วันนี้เราก็คงไม่มีสิทธิ์บนพื้นที่สัมปทานก๊าซกลางอ่าวไทย พื้นที่ครอบคลุมมากกว่า 7,000 ตารางกิโลเมตร และมีแหล่งสำรองก๊าซให้ประเทศถึง 5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต หรือเท่ากับ 50% ของแหล่งก๊าซที่มีอยู่ของไทยทั้งหมด

ใช่แล้ว..เกาะโลซินมีความเกี่ยวพัน กับโครงการขุดเจาะก๊าซกลางอ่าวไทยที่เรียกว่า พื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียอย่างแนบแน่น
ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของเกาะโลซิน ต้องเริ่มตั้งแต่ไทย-มาเลเซียโต้เถียงกันถึงเรื่องสิทธิเหนือน่านน้ำ โดยเริ่มตั้งโต๊ะโต้เถียงกันอย่างจริงจังในปี 2515




ไทยและมาเลเซียได้เจรจาเรื่องเส้นเขตแดนในทะเลอาณาเขต ในปี 2515
สามารถทำความตกลงกันได้ ตั้งแต่กึ่งกลาง ปากแม่น้ำโกลกออกไปในทะเล
36 ไมล์ทะเลเท่านั้น เพราะเพราะหากยึดตามข้อตกลงสากลแบ่งพื้นที่กลางทะเล
ด้วยวิธีลากเส้นตั้งฉากจากแนวโค้งของแผ่นดินแต่ละฝ่ายขึ้นไปที่
ลักษณะแผ่นดินของมาเลเซียที่งุ้มเข้ามาในอ่าวไทย ขณะที่แผ่นดินของไทยกลับเทลาดออกไป
หากลากเส้นตามหลักดังกล่าว เส้นนั้นจะทำมุมออกไปในอ่าวไทยแนวตะวันออกเฉียงเหนือ
ทำให้ไทยเสียเปรียบในการเจรจาอย่างมาก การเจรจาจึงหยุดไปหลายปี

มีการเจรจากันต่ออีกครั้งเมื่อปี 2521 เพื่อจะต่อเส้นเขตแดนในเขตไหล่ทวีป
ออกไปให้บรรจบกับเส้น claim ของเวียดนามที่กลางอ่าวไทยตอนล่าง
การเจรจาครั้งนี้บรรยากาศไม่ราบรื่นเหมือนการเจรจาครั้งแรก
เพราะประเทศไทยได้นึกถึง โลซิน หินโสโครกร้างกลางทะเล
กระโจมไฟกลายเป็นหลักฐานที่สำคัญ ในการอ้างสิทธิ์ของไทย ต่อกองหินร้างนี้
แต่กองหินนั้นไม่ใช่ เกาะ ประเทศไทยจึงไม่อาจอ้างสิทธิ์พื้นที่ทางทะเลได้

แต่โชคเป็นของฝ่ายไทยอีกครั้ง ที่เรายังคงใช้กฎหมายทะเลดั้งเดิม 4 ฉบับ
ตามอนุสัญญากรุงเจนีวา ค.ศ.1958 ซึ่งประเทศไทยลงนามและให้สัตยาบันเป็น��าคีอนุสัญญาฯ
ซึ่งกำหนดไว้เพียงว่า แม้เป็นหินกองหินที่โผล่พ้นน้ำ ก็สามารถนิยามว่าเป็นเกาะได้
เมื่อได้ชื่อว่าเป็นเกาะ ก็ย่อมมีไหล่ทวีปเป็นของตัวเอง มีผลไปถึงเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
การกำหนดอาณาเขต ผลประโยชน์และอำนาจอธิปไตยทางทะเล

มาเลเซียไม่ต้องการเจรจาโดยใช้เส้นเขตแนวนี้ ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้
เพราะการอ้างอธิปไตยเหนือเกาะโลซิน ทำให้เส้นเขตแนว เกิดเป็นสองแนว
แนวที่ลากเป็นเส้นตั้งฉากจากฝั่งออกไปในทะเล ประเทศไทย เสียเปรียบ
แนวที่ลากโดยยึดถือ เส้นแนวเกาะโลซิน ประเทศมาเลเซีย เสียเปรียบ
เกิดเป็นพื้นทีทับซ้อนทางทะเล เป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีอาณาเขตถึง 7250 ตารางกิโลเมตร




การเจรจาระดับเจ้าหน้าที่ดูเหมือนจะมาถึงทางตัน บรรยากาศทางการเมืองก็ตึงเครียดขึ้น
จากปัญหาเรือประมงไทยเข้าไปจับปลาในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนนี้แล้ว
ถูกเจ้าหน้าที่มาเลเซียจับไปดำเนินคดี ขณะนั้นนายกรัฐมนตรีของไทยคือ
พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ และนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย คือ ดาโต๊ะ ฮูสเซน ออน
ทั้งสองท่านมีความสนิทสนมกันเป็นส่วนตัว จึงได้ตกลงใจที่จะคลี่คลายปัญหานี้
โดยกำหนดให้มีการ เจรจา ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2522

ผลของการเจรจา คือ ความตกลงจัดตั้งพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย
ในพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว ความตกลงนี้เรียกกัน ว่า MOU เชียงใหม่
ซึ่งปัจจุบันเราเรียกว่า JDA ซึ่งต้องแบ่งปันผลประโยชน์คนละครึ่งหนึ่งกับมาเลเซีย นั่นเอง
��ายหลังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงมีการสำรวจ พบว่ามีแหล่งก๊าซธรรมชาติจำนวนมหาศาล
ในพื้นที่ ถึง 5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต หรือเท่ากับ 50% ของแหล่งก๊าซที่มีอยู่ของไทยทั้งหมด
โดย 75 เปอร์เซ็นต์อยู่ในพื้นที่ด้านล่างสามเหลี่ยม ในซีกพื้นที่ของมาเลเซีย




หากไม่มี "โลซิน" ไทยย่อมไม่อาจอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ทับซ้อน ขนาด 7250 ตารางกิโลเมตร

หากไม่มี "โลซิน" ไทยก็จะไม่มีสิทธิ์ในแหล่งก๊าซมูลค่ามหาศาลกลางอ่าวไทย

หากไม่มี "โลซิน" เราก็คงไม่มีเส้นเขตแดนที่มีอธิปไตยทางทะเลด้านใต้อ่าวไทยลงไปถึงตรงจุดนี้

และหากไม่มี "โลซิน" เราก็คงไม่มีแหล่งดำน้ำที่สวยงามกลางอ่าวไทย เช่นวันนี้..

จริงมั้ย??

ซิ้มร่านทำให้ผมยิ้มได้เสมอฮะ รอชมๆ