
นร หน่วยงานรัฐไหนที่ผลตอบแทนดีที่สุดครับ
#7
Posted 20 March 2017 - 11:47 PM
ศุลการกร จะมีค่าธรรมเนียมตามระเบียบกรมครับขอรายละเอียดหน่อยได้มั้ยคับ
ทำไมเป็นกรมศุลกากรอ่ะคับ
ถ้าเข้าบรรจุ ระดับ 3 (วุฒิ ป ตรี)
ได้ได้ส่วนเเบ่งตรงนี้ 6 ส่วน (ส่วนจะเพิ่มขึ้นตามระดับ+อายุงาน)
ส่วนที่ว่า คือ
1)ค่าล่วงเวลา ให้ส่วนละ 1200 บาทโดยประมาณ
2)ค่าธรรมเนียมภาษี ให้ส่วนละ 1800 บาทโดยประมาณ
ปล .ค่าล่วงเวลา ต่อให้ทำงานในกรมก็ได้ทุกคนครับ
ดังนั้น รวมได้เเต่ละเดือน คือ
1)เงินเดือน 15000
2)ค่าล่วงเวลา 1200*6=7200
3)ค่าธรรมเนียม 1800*6=10800
รวมรับโดยประมาณ 33,000
นิติกรส่วนราชการ (ฝ่ายกฎหมาย) ให้เพิ่ม 3000
#8
Posted 21 March 2017 - 12:21 AM
รัฐวิสาหกิค่ะ เลิศสุด
เเต่ตอนนี้เราอยู่ราชการนะ เงินน้อยมาก
เเต่เเนะนำหาตำเเหน่งที่ชอบจะดีสุดค่ะ
เงินดี เเต่ถ้าไม่ใช่เเนว ก็ทนได้ไม่นานหรอกค่ะ
เพื่อนไปเป็นเซลล์ขายยา เงินเดือน+ค่าเมนเทนเเนซ์รถ 60,000 ถ้าปิดยอดได้ ได้เพิ่มอีก 40,000
ทำได้ปีเดียวค่ะ นางดาวน์บ้าน ดาวน์ลด เเล้วก็ออกไปทำงานกระทรวง สรุปรายได้ตอนนี้นางได้ เงินเดือน 18,000 + ค่าตอบเเทนพิเศษ 1,500 +งานพาร์ทไทม์ 15,000
น้อยกว่าเดิมเท่าตัว
#9
Posted 21 March 2017 - 12:37 AM
เคยดูประกาศรับข้าราชการหรือพนักงานราชการประจำสถานฑูตในอเมริกา เงินเดือนและค่าครองชีพน้อยมากค่ะ เมื่อเทียบกับเงินเดือนคนอเมริกัน เหมือนกับว่าค่าเช่าห้องค่ากินก็หมดแล้ว อย่าหวังว่าจะได้เก็บเงิน(ทั้งๆที่ค่าครองชีพในอเมริกาสูงกว่าไทยมาก)นักการทูตถ้าทำงานในไทยก็ได้เรทราชการปกติ ไม่มีค่าพิเศษอะไร
แต่ถ้าไปออกประจำการต่างประเทศก็จะได้ตามค่าครองชีพ
Sent from my iPad using Tapatalk
ใครคิดว่าเป็นข้าราชการประจำสถานฑูตในต่างประเทศแล้วจะได้เงินเยอะ คิดผิดนะค่ะ(เงินเดือนเยอะกว่าทำในไทยจริง แต่อย่าลืมค่าครองชีพมันต่างกันนะ ได้ค่าครองชีพพอประทัง) มีดีอยู่อย่างคือมีเกียรติมีศักดิ์ศรีแต่ไม่รวย(นอกจากพ่อแม่รวยมาก่อนแล้ว)
#10
Posted 21 March 2017 - 12:43 AM
จะไปสอบนักวิชาการทูตปฏิบัติการ (ระดับ 3)เคยดูประกาศรับข้าราชการหรือพนักงานราชการประจำสถานฑูตในอเมริกา เงินเดือนและค่าครองชีพน้อยมากค่ะ เมื่อเทียบกับเงินเดือนคนอเมริกัน เหมือนกับว่าค่าเช่าห้องค่ากินก็หมดแล้ว อย่าหวังว่าจะได้เก็บเงิน(ทั้งๆที่ค่าครองชีพในอเมริกาสูงกว่าไทยมาก)
ใครคิดว่าเป็นข้าราชการประจำสถานฑูตในต่างประเทศแล้วจะได้เงินเยอะ คิดผิดนะค่ะ(เงินเดือนเยอะกว่าทำในไทยจริง แต่อย่าลืมค่าครองชีพมันต่างกันนะ ได้ค่าครองชีพพอประทัง) มีดีอยู่อย่างคือมีเกียรติมีศักดิ์ศรีแต่ไม่รวย(นอกจากพ่อแม่รวยมาก่อนแล้ว)
ไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกครับ
เพราะ กต เขามีการคัดเลือกต่างจากสอบ ขรก ปกติ
คือมีการคัดในเเบบของเขาเอง
มีการเข้าค่ายด้วย
ข้อมูลมารยาทธรรมเนียมระหว่างประเทศ บลาๆๆๆๆๆ
ไม่ต้องผ่าน ก เเต่เป็นอันรู้กันว่ายากมากกกกกกกกกส์
#11
Posted 21 March 2017 - 12:52 AM
เข้ายากมากเพราะเส้น เค้าเอาลูกท่านหลานเธอทั้งนั้น ,พวกนี้เค้าไม่ห่วงว่าจะได้เรื่องเงินเดือนน้อยหรือเยอะ(เพราะรวยมาก่อนทั้งนั้น) เค้าขอแค่ตำแหน่ง ความมีเกียรติมีหน้ามีตาจะไปสอบนักวิชาการทูตปฏิบัติการ (ระดับ 3)
ไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกครับ
เพราะ กต เขามีการคัดเลือกต่างจากสอบ ขรก ปกติ
คือมีการคัดในเเบบของเขาเอง
มีการเข้าค่ายด้วย
ข้อมูลมารยาทธรรมเนียมระหว่างประเทศ บลาๆๆๆๆๆ
ไม่ต้องผ่าน ก เเต่เป็นอันรู้กันว่ายากมากกกกกกกกกส์
#13
Posted 21 March 2017 - 01:27 AM
ความลูกท่านหลานเธอก็ควรจะมี แต่จริงๆเขาดูที่มารยาทความประพฤติมากกว่า ต้องประพฤติตนแบบผู้ดี
Sent from my iPad using Tapatalk
สอบ ก.ต. มีสามขั้น
1. ภาค ก เขาจะมีข้อสอบเฉพาะ(ของกระทรวงเอง) เป็นปรนัย เกี่ยวกับความรู้ทั่วไปทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และภาษาอังกฤษ
2. ภาค ข อัตนัย ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งก็จะมีข้อย่อยๆเฉพาะด้านไป รวมทั้งการแปลไทยเป็นอังกฤษและแปลอังกฤษเป็นไทย หรือภาษาอื่นๆอีกหกเจ็ดภาษา ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องเขียนเป็นภาษาเขียนอย่างทางการ เช่น สาส์นแสดงความเสียใจถึงการถึงแก่อสัญกรรมของประมุขของบางประเทศ
3. ภาค ค คือการเข้าค่ายใช้ชีวิตร่วมกับผู้สอบท่านอื่นๆและมีการทานข้าวพูดคุยกับผู้ใหญ่ในกระทรวง เหมือนเป็นการดูมารยาท การวางตัวเวลาอยู่กับคนอื่นๆ และสุดท้ายคือการพูดในที่ปะชุมชน จะมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้าฟัง ผู้เข้าสอบจะทราบหัวข้อในการพูดหน้าห้องนั้นๆ จะมีเวลาเตรียมสปีชของตัวเองแค่คนละประมาณห้านาที
เป็นลม
Sent from my iPad using Tapatalk
#14
Posted 21 March 2017 - 01:28 AM
นี่เลย เเต่ขี้เกียจพิมพ์ 5555เขาก็ดูทุกอย่างทั้งความเก่ง ซึ่งต้องมีมากๆๆๆๆๆ
ความลูกท่านหลานเธอก็ควรจะมี แต่จริงๆเขาดูที่มารยาทความประพฤติมากกว่า ต้องประพฤติตนแบบผู้ดี
Sent from my iPad using Tapatalk
สอบ ก.ต. มีสามขั้น
1. ภาค ก เขาจะมีข้อสอบเฉพาะ(ของกระทรวงเอง) เป็นปรนัย เกี่ยวกับความรู้ทั่วไปทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และภาษาอังกฤษ
2. ภาค ข อัตนัย ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งก็จะมีข้อย่อยๆเฉพาะด้านไป รวมทั้งการแปลไทยเป็นอังกฤษและแปลอังกฤษเป็นไทย หรือภาษาอื่นๆอีกหกเจ็ดภาษา ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องเขียนเป็นภาษาเขียนอย่างทางการ เช่น สาส์นแสดงความเสียใจถึงการถึงแก่อสัญกรรมของประมุขของบางประเทศ
3. ภาค ค คือการเข้าค่ายใช้ชีวิตร่วมกับผู้สอบท่านอื่นๆและมีการทานข้าวพูดคุยกับผู้ใหญ่ในกระทรวง เหมือนเป็นการดูมารยาท การวางตัวเวลาอยู่กับคนอื่นๆ และสุดท้ายคือการพูดในที่ปะชุมชน จะมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้าฟัง ผู้เข้าสอบจะทราบหัวข้อในการพูดหน้าห้องนั้นๆ จะมีเวลาเตรียมสปีชของตัวเองแค่คนละประมาณห้านาที
เป็นลม
Sent from my iPad using Tapatalk
#20
Posted 21 March 2017 - 11:29 AM
ทั้วๆไปครับกรมราชทัณฑ์ โอมั้ยครับ
รัฐวิสาหิจดีๆต้องวิทยุการบินแห่งประเทศไทยเลยครับ รายได้หลักเเสน ทำงานบนหอยังคับการบินสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) รัฐวิสาหกิจที่ดีที่สุด มีโบนัส สวัสดิการดีกว่าเอกชนบางแห่งด้วยซ้ำ ที่สำคัญคือเบิกค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนได้
#21
Posted 21 March 2017 - 12:24 PM
ค่าครองชีพที่ DC ก็ไม่ได้โหดมากนะ เงินเดือนเท่าไหร่ค๊ะอยากรู้
เคยดูประกาศรับข้าราชการหรือพนักงานราชการประจำสถานฑูตในอเมริกา เงินเดือนและค่าครองชีพน้อยมากค่ะ เมื่อเทียบกับเงินเดือนคนอเมริกัน เหมือนกับว่าค่าเช่าห้องค่ากินก็หมดแล้ว อย่าหวังว่าจะได้เก็บเงิน(ทั้งๆที่ค่าครองชีพในอเมริกาสูงกว่าไทยมาก)
ใครคิดว่าเป็นข้าราชการประจำสถานฑูตในต่างประเทศแล้วจะได้เงินเยอะ คิดผิดนะค่ะ(เงินเดือนเยอะกว่าทำในไทยจริง แต่อย่าลืมค่าครองชีพมันต่างกันนะ ได้ค่าครองชีพพอประทัง) มีดีอยู่อย่างคือมีเกียรติมีศักดิ์ศรีแต่ไม่รวย(นอกจากพ่อแม่รวยมาก่อนแล้ว)
#22
Posted 21 March 2017 - 12:43 PM
ค่าครองชีพที่ DC ก็ไม่ได้โหดมากนะ เงินเดือนเท่าไหร่ค๊ะอยากรู้
2-3 พันเหรียญ ไม่เกินนี้,ยิ่งถ้าเป็นลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการ ได้ไม่ถึง 2 พันเหรียญ(เราหมายถึงตำแหน่งพนักงานราชการทั่วๆไปประจำสถานทูตไทยในต่างประเทศนะ ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนักการทูตระดับสูง )ซึ่งได้น้อยมากเมื่อเทียบกับงานในอเมริกาทั่วๆไป มาตรฐานเค้าได้กัน 4 พันเหรียญอัพนะ)
และเคยรู้มาว่าพวกเด็กเสริฟที่อเมริกา ก็ได้กันร้อยกว่าเหรียญล่ะ ขนาดพวกเด็กเสิรฟเค้าทำแค่ part time นะ เค้าได้เดือนนึงก็ 2-3 พันล่ะ
#23
Posted 21 March 2017 - 01:04 PM
$2,000 pre-tax น้อยมากๆค่ะ แต่ถ้าอยู่รัฐแบบ Maine Montana อะไรพวกนี้น่าจะพออยู่ได้สบายๆ DC นี่น่าจะกระเบียดกระเสียรพอควร ตีว่าค่าบ้าน+utilities พันนึงก็แทบไม่เหลือเก็บ แต่เอาจริงๆเงินเดือนในอเมริกาไม่มีมาตรฐานของทั้งประเทศหรอกค่ะ ถ้าเฉลี่ยของแต่ละรัฐยังพอเป็นไปได้ นี่ย้ายมาหลายรัฐตั้งแต่ 1 bedroom $600 ไปจนถึง $2,500 ค่าครองชีพสวิงมากค่ะยิ่งซื้อบ้านนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ยี่สิบล้านได้แมนชั่นสี่ห้องนอนพร้อมสระว่ายน้ำในบางรัฐแต่ที่ซานฟรานอาจจะได้แค่สตูดิโอขนาดเท่าตดแล้วเหม็นทั้งห้องอะไรงี้ (เปรียบเปรยเฉยๆนะค๊ะยังไม่มีแพลนซื้อค่ะ)
2-3 พันเหรียญ ไม่เกินนี้,ยิ่งถ้าเป็นลูกจ้างชั่วคราวหรือพนักงานราชการ ได้ไม่ถึง 2 พันเหรียญ(เราหมายถึงตำแหน่งพนักงานราชการทั่วๆไปประจำสถานทูตไทยในต่างประเทศนะ ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนักการทูตระดับสูง )ซึ่งได้น้อยมากเมื่อเทียบกับงานในอเมริกาทั่วๆไป มาตรฐานเค้าได้กัน 4 พันเหรียญอัพนะ)
และเคยรู้มาว่าพวกเด็กเสริฟที่อเมริกา ก็ได้กันร้อยกว่าเหรียญล่ะ ขนาดพวกเด็กเสิรฟเค้าทำแค่ part time นะ เค้าได้เดือนนึงก็ 2-3 พันล่ะ
#24
Posted 21 March 2017 - 01:12 PM
$2,000 pre-tax น้อยมากๆค่ะ แต่ถ้าอยู่รัฐแบบ Maine Montana อะไรพวกนี้น่าจะพออยู่ได้สบายๆ DC นี่น่าจะกระเบียดกระเสียรพอควร ตีว่าค่าบ้าน+utilities พันนึงก็แทบไม่เหลือเก็บ แต่เอาจริงๆเงินเดือนในอเมริกาไม่มีมาตรฐานของทั้งประเทศหรอกค่ะ ถ้าเฉลี่ยของแต่ละรัฐยังพอเป็นไปได้ นี่ย้ายมาหลายรัฐตั้งแต่ 1 bedroom $600 ไปจนถึง $2,500 ค่าครองชีพสวิงมากค่ะยิ่งซื้อบ้านนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ยี่สิบล้านได้แมนชั่นสี่ห้องนอนพร้อมสระว่ายน้ำในบางรัฐแต่ที่ซานฟรานอาจจะได้แค่สตูดิโอขนาดเท่าตดแล้วเหม็นทั้งห้องอะไรงี้ (เปรียบเปรยเฉยๆนะค๊ะยังไม่มีแพลนซื้อค่ะ)
เป็นข้าราชการไทย มันดีตรงสวัสดิการเท่านั้นแหละค่ะ (เจ็บป่วย หาหมอแพงๆ ก็เบิกได้,ลูกเรียนก็เบิกได้ ,มีบำเหน็จบำนาญ) แต่ถ้าจะหวังรวยจากงานข้าราชการ ยากค่ะ ,นอกเสียจากได้ค่าใต้โต๊ะและการคอรัปชั่น(แต่จะทำแบบนี้ได้ก็ต้องตำแหน่งสูงๆอีกละค่ะ)
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users